"Out Of My Limit"
Back in high school we used to take it slow
Red lipstick on and high heel stilettos
Had a job downtown working the servo
Had me waiting in line couldn't even let go
Back in high school we used to take it slow
Red lipstick on and high heel stilettos
Had a job downtown working the servo
Had me waiting in line couldn't even let go
ช่วงเวลาที่เรียนอยู่ม.ปลายเราเคยทำมันแบบค่อยเป็นค่อยไป
ริมฝีปากแต้มด้วยลิปสติกสีแดงและใส่รองเท้าส้นเข็ม
ริมฝีปากแต้มด้วยลิปสติกสีแดงและใส่รองเท้าส้นเข็ม
มีงานทำอยู่ที่ปั๊มน้ำมันในตัวเมือง
มีผมกำลังต่อคิวอยู่ที่ไม่สามารถแม้กระทั่งปล่อยไปได้
มีผมกำลังต่อคิวอยู่ที่ไม่สามารถแม้กระทั่งปล่อยไปได้
[ถอดความหมาย;
Back in high school we used to take it slow ผู้ชายคนนี้กำลังนึกถึงช่วงที่เค้าเรียนอยู่ ม.ปลาย เค้าเคยตามจีบผู้หญิงคนหนึ่งอยู่
Red lipstick on and high heel stilettos ดูจากท่อนนี้เพื่อนๆคงจะพอนึกสภาพผู้หญิงคนนี้ออกใช่ไหมค่ะว่าเธอเปรี้ยวแค่ไหน เมื่อเธอฮอตออกขนาดนี้ก็เป็นธรรมดาที่ตกเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ ดังนั้นแล้วพระเอกของเราก็เป็นหนึ่งในบรรดาหนุ่มๆที่ตามจีบเธอ
Had a job downtown working the servo ท่อนนี้พูดถึงว่าผู้หญิงคนนี้ทำงานอยู่ในปั๊มน้ำมันค่ะ
Had me waiting in line couldn't even let go พระเอกของเราต้องลงทุนมาต่อคิวใช้บริการเพื่อหาทางที่จะคุยกับเธอ (โอเวอร์ไปไหม??) และพระเอกของเราก็ไม่สามารถปล่อยเธอไปได้ เหมือนกับคนที่มารอต่อจ่ายค่าบริการเติมแก๊สที่ไม่สามารถหนีไปไหนได้จนกว่าจะเติมแก๊สและจ่ายค่าบริการเสร็จ]
'Cause I never wanna be that guy
Who doesn't even get a taste
No more having to chase
To win that prize
เพราะผมไม่เคยอยากจะเป็นผู้ชายคนนั้น
คนที่ไม่ได้แม้กระทั่งลิ้มรส
ไม่มีการไล่ล่าใดๆ
ที่จะชนะรางวัลนั้น
Who doesn't even get a taste
No more having to chase
To win that prize
เพราะผมไม่เคยอยากจะเป็นผู้ชายคนนั้น
คนที่ไม่ได้แม้กระทั่งลิ้มรส
ไม่มีการไล่ล่าใดๆ
ที่จะชนะรางวัลนั้น
[ถอดความหมาย;
'Cause I never wanna be that guy Who doesn't even get a taste No more having to chase To win that prize พระเอกของเราเริ่มท้อกับการตามจีบแล้วค่ะ แบบเหมือนกับกลัวไม่กล้าเข้าไปทัก พระเอกเลยพูดกับตัวเองว่าจะไม่ยอมกินแห้วและเป็นไอ้ขี้แพ้เด็ดขาด ต้องชนะหัวใจเธอให้ได้]
[Chorus:]
You're just a little bit out of my limit
It's been two years now you haven't even seen the best of me
And in my mind now I've been over this a thousand times
And it's almost over
Let's start over
You're just a little bit out of my limit
It's been two years now you haven't even seen the best of me
And in my mind now I've been over this a thousand times
And it's almost over
Let's start over
เธอแค่อยู่ไกลเกินความสามารถของผมนิดหน่อยเท่านั้น
ตอนนี้มันก็สองปีมาแล้วที่คุณไม่แม้กระทั่งจะเห็นอะไรดีๆในตัวผมเลย
และในหัวใจของผมตอนนี้ ผมได้รับความพ่ายแพ้นี้มาสองพันครั้งเห็นจะได้
และมันเกือบจะยอมแพ้แล้วล่ะ
เอาเป็นว่าเริ่มจีบเธอเลยดีกว่า
ตอนนี้มันก็สองปีมาแล้วที่คุณไม่แม้กระทั่งจะเห็นอะไรดีๆในตัวผมเลย
และในหัวใจของผมตอนนี้ ผมได้รับความพ่ายแพ้นี้มาสองพันครั้งเห็นจะได้
และมันเกือบจะยอมแพ้แล้วล่ะ
เอาเป็นว่าเริ่มจีบเธอเลยดีกว่า
[ถอดความหมาย;
You're just a little bit out of my limit พระเอกของเราปลอบใจตัวเองอยู่ค่ะว่ายังไงก็จีบเธอสำเร็จแน่
It's been two years now you haven't even seen the best of me And in my mind now I've been over this a thousand times And it's almost over Let's start over พระเอกเฝ้าติดตามผู้หญิงมาสองปีแล้วแต่ผู้หญิงก็ไม่เคยรู้เลยว่าพระเอกของเราแอบปลื้มเธออยู่ ไม่เห็นความน่ารักของพระเอกของเราเลย (_ _") (เดี๋ยวนะแอบซุ่มดูเค้าสองปีเลยเหรอ??? แอดมินเพลียค่ะ) สองปีแล้วที่พระเอกไม่เคยคุย ไม่เคยชวนเธอออกเดท พระเอกของเราเลยขอฮึดสู้ไม่ยอมเป็นเด็กเนิร์ดที่มัวเนียมอายอีกแล้วค่ะ]
It's been two years now you haven't even seen the best of me And in my mind now I've been over this a thousand times And it's almost over Let's start over พระเอกเฝ้าติดตามผู้หญิงมาสองปีแล้วแต่ผู้หญิงก็ไม่เคยรู้เลยว่าพระเอกของเราแอบปลื้มเธออยู่ ไม่เห็นความน่ารักของพระเอกของเราเลย (_ _") (เดี๋ยวนะแอบซุ่มดูเค้าสองปีเลยเหรอ??? แอดมินเพลียค่ะ) สองปีแล้วที่พระเอกไม่เคยคุย ไม่เคยชวนเธอออกเดท พระเอกของเราเลยขอฮึดสู้ไม่ยอมเป็นเด็กเนิร์ดที่มัวเนียมอายอีกแล้วค่ะ]
Back in high school we used to make up plans
Called you up one day to meet split ends
Called you up one day to meet split ends
กลับไปตอนที่เรียนอยู่ม.ปลายเราเคยได้วางแผนทำอะไรตั้งหลายอย่าง
เคยอยากลองโทรหาเธอสักครั้งเพื่อสิ้นสุดการแย่งต่ำแหน่งนี้
[ถอดความหมาย;
Back in high school we used to make up plans Called you up one day to meet split ends พระเอกของเราอยากจะโทรหาเธอ ชวนเธอออกไปเดท อยากจะแย่งตำแหน่งจากบรรดาหนุ่มๆที่ตามจีบเธอ อยากกำจัดผู้ชายทุกคนออกไปหาจากเธอ]
'Cause I never wanna be that guy
Who doesn't even get a taste
No more having to chase
To win that prize
Who doesn't even get a taste
No more having to chase
To win that prize
เพราะผมไม่เคยอยากจะเป็นผู้ชายคนนั้น
คนที่ไม่ได้แม้กระทั่งลิ้มรส
ไม่มีการไล่ล่าใดๆ
ที่จะชนะรางวัลนั้น
คนที่ไม่ได้แม้กระทั่งลิ้มรส
ไม่มีการไล่ล่าใดๆ
ที่จะชนะรางวัลนั้น
[Chorus 2x:]
You're just a little bit out of my limit
It's been two years now you haven't even seen the best of me
And in my mind now I've been over this a thousand times
And it's almost over
Let's start over
You're just a little bit out of my limit
It's been two years now you haven't even seen the best of me
And in my mind now I've been over this a thousand times
And it's almost over
Let's start over
เธอแค่อยู่ไกลเกินความสามารถของผมนิดหน่อยเท่านั้น
ตอนนี้มันก็สองปีมาแล้วที่คุณไม่แม้กระทั่งจะเห็นอะไรดีๆในตัวผมเลย
และในหัวใจของผมตอนนี้ ผมได้รับความพ่ายแพ้นี้มาสองพันครั้งเห็นจะได้
และมันเกือบจะยอมแพ้แล้วล่ะ
เอาเป็นว่าเริ่มจีบเธอเลยดีกว่า
ตอนนี้มันก็สองปีมาแล้วที่คุณไม่แม้กระทั่งจะเห็นอะไรดีๆในตัวผมเลย
และในหัวใจของผมตอนนี้ ผมได้รับความพ่ายแพ้นี้มาสองพันครั้งเห็นจะได้
และมันเกือบจะยอมแพ้แล้วล่ะ
เอาเป็นว่าเริ่มจีบเธอเลยดีกว่า
ขอบคุณนะคะ
ตอบลบชอบจังๆ ซุ่มอยู่2ปีเชียว อยากเดาว่าลุคเป็นพระเอกคนนั้น จินตนาการต่อเนื่องมาจาก try hard อีกที
ตอบลบหนุ่มๆชอบแต่งเพลงแบบเล่าเรื่องราวคะ แอดเดาว่าเพลง try hard คงเป็นภาคต่อจากเพลงนี้ :)
ลบ